เด็กหลอดแก้วความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) แล้วก็วิธี อิ๊คซี่ (ICSI) เป็นกรรมวิธีการที่ตัวอสุจิจะเข้าไปปฏิสนธิกับไข่
(https://i.imgur.com/xPnqYgI.png)
สามารถอ่านรายละเอียดได้จาก >> เด็กหลอดแก้ว https://www.dhcivfthai.com/icsi/ (https://www.dhcivfthai.com/icsi/)
สำหรับ IVF นั้นเซลล์ไข่แล้วก็ตัวอสุจิ ถูกนำไปวางผสมกันในจานเพาะเลี้ยง โดยปลดปล่อยให้ตัวอสุจิว่ายเข้ามาผสมกับเซลล์ไข่เองตามธรรมชาติ อสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียงแค่นั้นก็เลยจะสามารถทำการปฏิสนธิกับไข่ได้
สำหรับ ICSI จะคัดเลือกเชื้อน้ำเชื้อที่แข็งแรงสมบูรณ์เพียงตัวเดียว และใช้เข็มแก้วขนาดเล็ก เจาะเปลือกไข่ ฉีดตัวเชื้อเข้าไปในเซลล์ของไข่โดยตรง ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ วิธี ICSI สามารถเพิ่มอัตราการปฏิสนธิให้ผลที่ดีเยี่ยม แล้วก็ช่วยลดปัญหาด้านการถือกำเนิดที่แตกต่างจากปกติ อย่างเช่น การปฏิสนธิจากอสุจิหลายตัวและอสุจิไม่อาจจะเจาะเปลือกไข่ ได้เอง ฯลฯ
ข้อบ่งชี้ในการทำ ICSI
ข้างชายที่มีจำนวนอสุจิน้อยกว่าปกติ น้อยเกินไปหนจะทำ IUI หรือ IVF
ข้างชายที่มีปัญหาน้ำอสุจิขยับเขยื้อนน้อยกว่าปกติ
ฝ่ายชายที่มีน้ำเชื้อมีรูปร่างแตกต่างจากปกติ < 4 %
ฝ่ายชายที่มีปัญหาอสุจิไม่สามารถที่จะเจาะเปลือกไข่เพื่อมีการปฎิสนธิได้
ในรายที่จำต้องเก็บน้ำอสุจิจากการผ่าตัด (Surgical sperm retrieved) ได้แก่ผู้เจ็บป่วยชายที่เคยทำหมันมาก่อน
ในรายที่ฝ่ายหญิงแช่แข็งไข่ไว้
คู่ควงที่อยากได้ตรวจคัดเลือกกรองโรคทางพันธุกรรมด้วยวิธี NGS
คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากวิธีการทำ ICSI
ช่วยเพิ่มอัตราการปฏิสนธิ 70-85 % ทำให้ได้ตัวอ่อนมากยิ่งขึ้น
ช่วยเพิ่มจังหวะให้เกิดการมีครรภ์สูงมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงผู้ที่มีสภาวะมีลูกยาก ฝ่ายหญิงอายุเฉลี่ยที่ 35 ปีขึ้นไป
ในกรณีที่ทำ ICSI รวมทั้งมีการผสมกันแล้วได้ตัวอ่อนหลายตัว มีตัวอ่อนเหลือสามารถเก็บแช่แช็งไว้ทำคราวต่อไปได้ โดยไม่ต้องกลับมาเริ่มขั้นตอนกระตุ้นไข่เก็บไข่ใหม่ หากคนไข้พร้อมมีลูกคนต่อไปเมื่อไหร่สามารถกลับมาทำได้เรื่อยๆ
เป็นกระบวนการรักษาภาวะมีบุตรยาก ที่ได้โอกาสมีท้องสำเร็จมากที่สุด เมื่อเทียบกับกรรมวิธีรักษาอื่นๆ
ขั้นตอนสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว (https://www.dhcivfthai.com/icsi/) (IVF/ICSI)
วันที่ 1-3 ของรอบเมนส์ แพทย์จะทำอัลตราซาวน์ดูปริมาณไข่เริ่มต้น แล้วก็เจาะเลือดฮอร์โมน แล้วหลังจากนั้นจะให้ยาฉีดการกระตุ้นไข่ ประมาณ 8-12 วัน เพื่อให้ได้เซลล์ไข่ปริมาณหลายใบซึ่งมีคุณภาพที่ดีแล้ว เมื่อไข่มีขนาดที่สมควรหมอจะทำการเจาะเก็บไข่ออกมา ต่อจากนั้นผู้ชำนาญด้านการเพาะเลี้ยงตัวอ่อน จะนำไข่พวกนั้นมาผสมกับน้ำเชื้อที่ผ่านการเตรียมรวมทั้งคัดแยกเฉพาะน้ำอสุจิที่สมบูรณ์ โดยห้องทดลองวิเคราะห์น้ำเชื้อ แล้วหลังจากนั้นเอามาเก็บไว้ภายใน ตู้สำหรับเลี้ยงตัวอ่อนเพื่อปล่อยให้น้ำอสุจิได้ทำถือกำเนิดกับไข่รวมทั้งทำการตรวจผลการกำเนิดจากนั้นราวๆ 16-18 ชั่วโมง แล้วก็เลี้ยงตัวอ่อนเหล่านั้นไปราวๆ 5-6 วัน
การย้ายตัวอ่อน (Embryo Transfer)
การย้ายตัวอ่อน (ET) ใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก จะทำหลังจากเก็บเซลล์ไข่และก็ถือกำเนิดกับอสุจิ แล้ว ซึ่งจะสามารถย้ายได้ตั้งแต่ตัวอ่อนระยะวันที่ 3 ถึงวันที่ 5 ซึ่งแบ่งเป็นการย้ายตัวอ่อนรอบสด (Fresh ET) และรอบแช่แข็งได้ (Frozen-thawed ET) โดยการย้ายตัวอ่อนแต่ละแบบ นั้นขึ้นกับข้อบ่งชี้ทางด้านการแพทย์ในแต่ละราย
กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) เหมาะสำหรับ
ฝ่ายหญิงมีความผิดปกติของท่อนำไข่ที่ตีบหรือตันทั้งสองข้าง
ข้างหญิงมีภาวการณ์ตกไข่เปลี่ยนไปจากปกติ (PCOS)
ข้างหญิงมีภาวการณ์เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
คู่แต่งงานที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม
ฝ่ายชายมีปัญหาเชื้อน้ำอสุจิมีจำนวนน้อยหรือคุณภาพไม่ดี
ภาวะมีลูกยากที่ไม่รู้มูลเหตุ
อัตราการตั้งครรภ์ จากการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI)
โดยธรรมดาอัตราการบรรลุเป้าหมายของขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) จะค่อนข้างสูง อยู่ที่ 50-70% โดยอัตราการประสบความสำเร็จ จะขึ้นกับต้นเหตุหลายประเภท อาทิเช่น
อายุของข้างหญิง
ประสิทธิภาพของเซลล์ไข่แล้วก็อสุจิ
คุณภาพของตัวอ่อน และก็ความแตกต่างจากปกติของโครโมโซมของตัวอ่อน
ความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูกในวันที่ใส่ตัวอ่อน
ความผิดปกติของมดลูก และเยื่อบุโพรงมดลูก
ข้อดีของการทำ ICSI
เป็นวิธีที่มีโอกาสสำเร็จเยอะที่สุดในขณะนี้
สามารถรักษาหลากหายปัญหามีบุตรยาก
ผู้หญิงคุมกำเนิดแล้วหลังจากนั้นก็ทำเป็น
เพศชายที่มีสเปิร์มน้อยกว่ามาตรฐานมาตรฐานสามารถทำ IVF ได้
สามารถตรวจโครโมโซมตัวอ่อนได้
ข้อเสียของแนวทางการทำ ICSI
ราคาแพงสูงขึ้นมากยิ่งกว่า IUI
มีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่า
ใช้เวลายาวนานหลายวัน
ในบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการเก็บไข่ อย่างเช่น สภาวะฟองไข่ถูกกระต้นมากจนเกินไป
(https://i.imgur.com/MG28bBu.png)
เครดิตบทความ บทความ เด็กหลอดแก้ว https://www.dhcivfthai.com/icsi/ (https://www.dhcivfthai.com/icsi/)