• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chigaru

#3421

บอร์ด GLOCON ไฟเขียวแต่งตั้ง "เพ็ญศรี" ผู้บริหารมือเก๋าด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี นั่งรักษาการ CEO พร้อมดึงลูกหม้อเก่า "วชิราภรณ์" กลับนั่งตำแหน่ง CFO ร่วมทัพขับเคลื่อนธุรกิจ มีผลนับตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2565 "มาดามหลุยส์" มั่นใจภาพรวมการเติบโตปี 2565 สดใสต่อเนื่องปี 2566 รายได้แตะ 3,200 ล้านบาท พร้อมจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้นตามเป้าไตรมาส 1/2566

นางสาวหลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกล. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติแต่งตั้ง นางเพ็ญศรี สืบสุวงษ์ ผู้บริหารมือเก๋าด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี เป็นกรรมการ, กรรมการบริหาร และรักษาการตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) พร้อมแต่งตั้ง นางสาววชิราภรณ์ อัจนปัญญา ลูกหม้อเก่ากลับนั่งกรรมการบริหาร, เลขานุการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่การเงิน (CFO) ร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ โดยมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป

นางสาวหลุยส์ บอกเพิ่มเติมถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2565 ว่า ยังคงเติบโตตามแผน มั่นใจภาพรวมทั้งปี 2565 สดใสต่อเนื่องปี 2566 ตั้งเป้าปี 2566 รายได้เติบโตแตะ 3,200 ล้านบาท พร้อมจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นภายในช่วงไตรมาส 1/2566 ตามเป้าหมาย โดยล่าสุดบริษัทฯยังคงมุ่งมั่นสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ด้วยการเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าผลักดันรายได้ทุก Business Unit แตะ 1,000 ล้านบาท หนุนรายได้รวมเติบโตแตะ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2570

ทั้งนี้ ปัจจุบัน บมจ.โกล. คอนซูเมอร์ แบ่งธุรกิจเป็น 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1.ธุรกิจอาหารแปรรูปแช่แข็ง, อาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน, ลูกชิ้นทิพย์ และผลไม้อบแห้ง สัดส่วน 73%, 2.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทต่างๆ สัดส่วน 24% และ 3.ธุรกิจเทรดดิ้ง สัดส่วน 3% ของรายได้รวม
#3422

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดงาน SET in the city 2022 ในวันที่ 5-6 พ.ย.65 เวลา 10.00-17.00 น.โดยครั้งนี้จัดในรูปแบบทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก

ทั้งนี้ การจัดงานครั้งนี้อยู่ในธีม"ให้คุณลงทุนอย่างมั่นใจในยุคดอกเบี้ยขาขึ้น" ที่จะวิเคราะห์แนวโน้มผ่านมูมมองผู้เชี่ยวชาญ ไม่ตกเทรนด์ลงทุน พร้อม Workshop เพื่อมือใหม่ เจาะลึก เข้มข้น ประสบการณ์ตรงจากผู้รู้จริง

ในวันที่ 5 พ.ย.65

10.30-11.00 น. อัปเดตเศรษฐกิจ จับทิศลงทุน 2023 กับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ

11.00-12.30 น. ปรับพอร์ต จัดทัพ รับดอกเบี้ยขาขึ้น โดยนายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ และ นายวิน พรหมแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิคร์ส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

13.00-14.00 น. สอนมือใหม่ลงทุนออนไลน์ให้เทรดได้ใช้เครื่องมือเป็นกับ Streaming โดยนายธนิน คุณความดี จาก The Money Game และ นายพัลลภ อัศววงศ์ไพศาล ผู้อำนวยการธุรกิจหลักทรัพย์รายย่อย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)

14.30-15.30 น. สร้างพอร์ตลงทุน ทำได้เองไม่ง้อเซียน โดยนายเมธี จันทวิมล Managing Partner บลน.ฟีโนมีน่า

16.00-17.00 น.เปิดตำราหาหุ้นฉบับมือใหม่ สไตล์ KFC โดยนายกวี ชูกิจเกษม Head of Research and Content สายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พาย

ในวันที่ 6 พ.ย.65

10.30-12.00 น. วิเคราะห์เจาะ Theme เด่น Trend เติบโต โดยนายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) นายสิทธิชัย ดวงรัตนฉายา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยการลงทุน บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ และนายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย

12.00-12.30 น. เปิด Roadmap สู่การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล โดยนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

13.00-14.00 น. เปิดสูตรลงทุนหุ้นต่างประเทศเทรดอย่างมืออาชีพ โดยนายรัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายหลักทรัพย์ต่างประเทศและฟิวเจอร์ส บล.บัวหลวง และนายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย)

14.30-15.30 น. สร้างโอกาสทำกำไรในกราฟเทคนิคกับ Wave Rider โดยโค้ชปุย ประกาศิต กิตาราม

16.00-17.00 น. สอนเทรด TFEX FX FUTURES แบบ Step-by-Step ด้วย MT4 โดยนายจิระเดช คูหากาญจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Top Trader
#3423
'AAI' ดีเดย์เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก 1 พ.ย.นี้ ปลื้มนักลงทุนตอบรับจองซื้อหุ้น IPO คึกคัก รุกเดินหน้าขยายกำลังผลิตสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

'บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล' หรือ AAI ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานชั้นนำของประเทศ เตรียมนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก 1 พ.ย.นี้ นับเป็นหุ้นไทยตัวแรกที่ดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่เข้าเทรดใน SET เผยกระแสตอบรับจากนักลงทุนดีเยี่ยม หลังยอดจองซื้อหุ้น IPO ล้นหลาม เดินหน้าขยายกำลังผลิตและคลังสินค้าอัตโนมัติแห่งที่ 2 สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกรายใหญ่ของไทย

นายเอกราช พรรณสังข์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯพร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 โดยใช้ชื่อย่อ 'AAI' ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงที่ผ่านมา จำนวน 637.5 ล้านหุ้น ราคาเสนอขาย 5.55 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก สะท้อนความเชื่อมั่นในพื้นฐานการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงที่มีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพการเติบโตสูง ช่วยสนับสนุนให้ AAI เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนภายหลังจากเข้าเทรด

ทั้งนี้ ภายหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ มีนโยบายลงทุนและขยายธุรกิจเพื่อดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ในการเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารสู่สากล ด้วยคุณภาพ ความปลอดภัยและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยวางแผนขยายการลงทุนในปี 2565-2568 ซึ่งจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,700-2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) โครงการขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกในประเทศไทย โดยมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตอีกประมาณ 40,000 ตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่า จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกสูงสุด 42,000 ตันต่อปี ซึ่งจะเป็นการทยอยเพิ่มกำลังผลิตตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565-2568 เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนขยายกำลังการผลิตครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งมีแหล่งเงินทุนมาจากการระดมทุนในครั้งนี้ประมาณ 600-700 ล้านบาท และส่วนที่เหลือมาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 2) โครงการลงทุนในคลังสินค้าอัตโนมัติ (Auto Warehouse) แห่งที่ 2 ภายในปี 2566 โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาท สามารถจัดเก็บสินค้าเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15,000-20,000 พาเลท ภายหลังจากคลังสินค้าอัตโนมัติของบริษัทฯ ไม่เพียงพอรองรับแผนงานการขยายกำลังการผลิตในอนาคต พร้อมกันนี้ AAI มีแผนจะยื่นขอสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามบัตรส่งเสริมการลงทุน (BOI) ใน 2 โครงการดังกล่าวอีกด้วย 3) เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมทั้งระยะสั้นและระยะยาว จำนวนไม่เกิน 700-800 ล้านบาท ภายในไตรมาส 4/2565 ซึ่งจะส่งผลให้ดอกเบี้ยจ่ายและอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) หลัง IPO ลดลง และ 4) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ

กรรมการผู้จัดการ AAI กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีแนวทางขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกรายใหญ่ของประเทศไทย ภายใต้แผนกลยุทธ์ "Level Up AAI!" เพื่อยกระดับองค์กรให้พัฒนาและเติบโตให้ทันกับโอกาสทางธุรกิจ และพร้อมปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ผ่านการยกระดับองค์กรในด้านต่างๆ ได้แก่ 1) ยกระดับธุรกิจ (Level Up Our Organization) มุ่งเน้นการปรับโครงสร้างองค์กรและโครงสร้างการบริหารงานให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากล เร่งพัฒนาบุคลากร รวมถึงการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อรองรับการเติบโตและโอกาสทางธุรกิจในอนาคต 2) ยกระดับสถานะจาก "ผู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์" เพื่อเป็น "คู่ค้าเชิงกลยุทธ์" (Level Up our Co-developer Position to Strategic Partners) โดยให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงมองหาโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ทั้งในกลุ่มธุรกิจที่เป็นต้นน้ำและปลายน้ำ (Up-stream / Down-stream) เพื่อให้การบริหารจัดการด้านห่วงโซ่อุปทานมีความต่อเนื่องและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3) ยกระดับแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงของบริษัทฯ เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก (Level Up Our Own Brands) โดยเดินหน้าพัฒนาแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงในหลากหลายแบรนด์ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกตลาดย่อย (Market Segment) และมีผลิตภัณฑ์ครบทุกประเภท และ 4) ยกระดับความใส่ใจต่อแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านแผนกลยุทธ์ CHEERS! (Level Up Cares Through CHEERS! Strategy) โดยให้ความสำคัญต่อปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และยึดมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนตามหลักสากลขององค์การสหประชาชาติ ควบคู่ไปกับการเติบโตของบุคลากรในองค์กร และการพัฒนาของสังคมรอบข้าง ตลอดจนรักษาทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่ายิ่งให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต

นายทวีชัย ตั้งธนทรัพย์ Head of Investment Banking Capital Market บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า AAI ถือเป็นหุ้นที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงตัวแรกที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตสูง ภายหลังจากกลุ่มประชากรในปัจจุบันมักนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว หรือที่เรียกว่า "Pet Humanization" โดยในช่วงการจองซื้อหุ้น IPO ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันเป็นอย่างมาก โดยในส่วนของนักลงทุนสถาบันในประเทศมีความต้องการจองซื้อมากถึงเกือบ 10 เท่าของจำนวนหุ้นที่จัดสรร อันเนื่องมาจากพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก (Wet Pet Food) และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก (Human Food) ชั้นนำของประเทศ พร้อมด้วยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมานานกว่า 15 ปี ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นถึงศักยภาพของบริษัทฯ ที่พร้อมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
#3424

ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุด เป็นไปตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยได้รับแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ PTTEP, KBANK, BBL, ADVANC, SCC คาดว่าเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่องจากวานนี้ที่ต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 4 พันล้านบาท

เมื่อเวลา 10.05 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,618.85 จุด เพิ่มขึ้น 10.09 จุด (+0.63%)

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.24 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,617.25 จุด เพิ่มขึ้น 8.49 จุด (+0.53%)

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นไปกว่า 10 จุด เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียเหนือ ดัชนีฮั่งเส็งพุ่งไปถึง 4% และดัชนีเซี่ยงไฮ้ บวกได้ 1.65% แต่อย่างไรก็ภาพในระยะสั้นอัพไซด์ยังจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่ดาวน์ไซด์ก็คงไม่มากแล้ว เนื่องจากเงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 4,000 ล้านบาท ถือว่าสูงสุดในรอบ 4 ปี

อย่างไรก็ตาม วันนี้คาดว่าตลาดฯ น่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ ให้แนวรับไว้ที่ 1,600 จุด และแนวต้าน 1,620 จุด
#3425
เครื่องผลิตหน้ากากอนามัย สามารถผลิตหน้ากากแบบไหนได้บ้าง

หน้ากากอนามัย 
เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในสังคมยุคนี้โดยไม่ต้องสงสัยหรือถามหาเหตุผลอะไรเลยเพราะด้วยความอันตรายของ โรค Covid-19 ที่นับวันยิ่งมีความอันตรายและร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆบวกกับมลภาวะที่เป็นพิษของประเทศไทยและฝุ่น PM 2.5 ทำให้หน้ากากอนามัยนั้นมีความสำคัญมากต่อชีวิตประจำวันของเราทุกคนไม่ว่าจะออกไปไหน ทำอะไร ก็ควรจะสวมหน้ากากอนามัยไว้เพื่อความปลอดภัยและที่สำคัญยังเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้เลยและก็ต้องพกติดตัวไว้ตลอดเวลา เครื่องผลิตหน้ากาก วันนี้เราจะมาพูดถึงหน้ากากอนามัย 2 รูปแบบนั้นก็คือ หน้ากากอนามัยที่ใช้แบบทั่วไปและหน้ากากอนามัย N95 ว่าสามารถป้องกันเชื้อโรคโควิท 19 ได้จริงหรือไม่และอาจจะพูดถึงวัตถุดิบในการผลิตหน้ากากอนามัยรวมถึงเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัยอีกด้วย ไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปเริ่มกันเลยดีกว่าครับ 

เอาล่ะครับวันนี้ผมได้พูดไปพอสมควรแล้วเกี่ยวกับความสำคัญของหน้ากากอนามัยในยุคสมัยใหม่และการผลิตหน้ากากอนามัย ไว้บทความหน้าผมจะเจาะจงให้มากกว่านี้ว่าการวัตถุดิบในการผลิตหน้ากากอนามัยนั้นมีอะไรบ้าง คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร แต่ถ้าท่านได้มีข้อสงสัยหรือต้องการจะสอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อผมได้จากข้อมูลด้านล่างนี้เลยนะครับ ส่วนวันนี้ผมขอตัวไปก่อน ไว้เจอกันบทความหน้าครับ ส่วนท่านในสนใจ เครื่องผลิตหน้ากากอนามัย สามารถคลิกได้ที่ลิ้งเลยครับ เครื่องผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์

ติดต่อ :
Email : info@cctgroup.co.th
เบอร์โทรศัพท์ : 081-2079977 , 081-6428557 (คุณสมนึก)
Line ID : 0812079977
เรียบเรียงข้อมูลโดย : https://www.cctgroup.co.th 
#3427

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ sideway ขึ้นตามตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค และได้รับปัจจัยหนุนจากทิศทางเงินทุนต่างชาติไหลเข้าหลังจากทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาได้

สำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมช่วงกลางสัปดาห์นี้ นักลงทุนคาดว่าจะปรับขึ้น 0.75% มองว่าจะไม่ได้มีผลกระทบอย่างมีนัย แต่ส่วนใหญ่จะรอติดตามถ้อยแถลงต่อทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือน ธ.ค. โดยคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชะลอลงเหลือ 0.50%

ขณะเดียวกัน นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเข้าเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3/65 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง

พร้อมให้แนวรับที่ 1,605 จุด และ 1,600 จุด แนวต้าน 1,612-1,620 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (31 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,732.95 จุด ลดลง 128.85 จุด หรือ -0.39%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,871.98 จุด ลดลง 29.08 จุด หรือ -0.75% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,988.15 จุด ลดลง 114.31 จุด หรือ -1.03%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,614.64 จุด เพิ่มขึ้น 27.18 จุด หรือ +0.1%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 14,859.92 จุด เพิ่มขึ้น 172.9 จุด หรือ +1.18% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,899.50 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด หรือ +0.21%
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 ต.ค.65.) ที่ระดับ 1,608.76 จุด เพิ่มขึ้น 2.69 จุด, +0.17%
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,103.13 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ต.ค.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.(31 ต.ค.)ลดลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 86.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ต.ค.) อยู่ที่ 3.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 38.01 รอมติเฟดกลางสัปดาห์ คาดกรอบ 37.90-38.15
แบงก์ชาติยกเลิกผ่อนคลายมาตรการ LTV เริ่มกลับไปใช้เกณฑ์เก่าต้นปี 566 หวังสกัดแรงเก็งกำไร ป้องหนี้ครัวเรือนพุ่ง หลังพบตลาดอสังหาฯ เริ่มฟื้นตัวกลับมาเท่าก่อนโควิด ด้านผู้ประกอบการหวั่นปัจจัยลบปีหน้าอ่วมฉุดตลาดชะงัก ระบุช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อฟื้นเศรษฐกิจ แนะต่อมาตรการกระตุ้นอย่างน้อย 1 ปี
"วิษณุ" ตอบปมข้อกฎหมายอนุญาตต่างชาติถือครองที่ดิน 1 ไร่ ชี้อยู่ขั้นตอน "กฤษฎีกา" ตรวจร่างกฎกระทรวงก่อนเสนอ ครม. พร้อมพิจารณาปมปัญหา ทั้งวงเงินลงทุน 40 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนในไทย ยันเข้มป้องกัน "เปลี่ยนมือ-รวมแปลงใหญ่" ธุรกิจอสังหาฯ ป่วนกระแสต้าน แนะกำหนดราคาโซนนิ่ง ชงเพิ่มเวลาเช่าได้ยาวลดแรงกดดัน "ขายชาติ" แนะทำแซนด์บอกซ์
"ธปท." ฟุ้งเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/2565 ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง อานิสงส์การบริโภค-ลงทุนเอกชนปรับตัวดีขึ้น ด้าน สศอ.เผย MPI ขยายตัว ภาคการผลิตกลับมาฟื้นตัว ได้แรงส่งออก-ท่องเที่ยวหนุน จับตาจุดเสี่ยงปีหน้าฉุด ศก.โลกชะลอ
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือน ก.ย. โดยพบว่าขยายตัว 3.36% ขณะที่ไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.) ขยายตัว 8.06% ส่งผลให้ 9 เดือนแรกของปีนี้ เอ็มพีไอขยายตัว 2.83% ทำให้มั่นใจว่าตลอดทั้งปีนี้เอ็มพีไอจะสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.5-2.5% และเชื่อว่าปี 2566 จะสูงกว่าปีนี้แน่นอน เนื่องจากตลาดส่งออกหลักๆ ทั้งสหรัฐฯ อาเซียน และสหภาพยุโรป (อียู) ยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวก็ขยายตัวดี ส่งผลต่อสินค้าที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวขยายตัวดีเช่นกัน รวมถึงกิจกรรมกระตุ้นทางเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของภาคอุตสาหกรรม หรือจีดีพีภาคอุตสาหกรรมก็คาดว่าปีนี้จะขยายตัว 2-3% และปีหน้าก็จะขยายตัวเช่นเดียวกัน
"ปลัดคลัง" แจงเร่งพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หวังเป็นของขวัญปีใหม่คนไทย หนุน "ช้อปดีมีคืน" ชี้มีความน่าสนใจ เหตุช่วยกระตุ้นคนรวยใช้จ่าย แต่ต้องดูระยะเวลาและประมาณการรายได้ของรัฐบาล
*หุ้นเด่นวันนี้

บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (AAI) เทรดใน SET วันนี้ ราคา IPO ที่ 5.55 บาท เป็นบริษัทย่อยของ ASIAN ประกอบธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก และผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากการแปรรูปปลาทูน่า อาทิ น้ำนึ่งปลา ปลาป่น และน้ำมันปลา โดยส่งออกไปยังต่างประเทศ 90% ภายใต้การรับจ้างผลิต (OEM) 97% ของรายได้และแบรนด์ของบริษัทเอง อาทิ Monchou Maria Hajiko และ Pro 3% ของรายได้
BBL (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 169.00 บาท รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ที่ 7,657 ลบ.(+10.8%YoY, +10.0%QoQ) ยังคงเติบโตได้แม้เผชิญปัจจัยลบจากการตั้งสำรอง ECL ที่ 9,889 ลบ.(+0.2%YoY, +18.4%QoQ) แต่ได้แรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ 26,496 ลบ.(+28.0%YoY, +12.6%QoQ) จากจำนวนเงินให้สินเชื่อที่สูงขึ้น ขณะที่ทิศทางไตรมาส 4/65 คาดยังอยู่ในเกณฑ์ดีจากการตั้งสำรองไปมากแล้วในไตรมาส 3/65 และกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว คาดปี 65 และ66 กำไรสุทธิขยายตัวมาอยู่ที่ระดับ 30,570 ลบ. (+15.33%YoY) และ 34,837 ลบ.(+13.96%YoY) ตามลำดับ
CENTEL (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า IAA Consensus 55 บาท คาดหวัง ททท.เสนอมาตรการเราเที่ยวด้วยกันให้ ครม.พิจารณาในวันนี้ เป็น Sentiment บวกต่อผู้ประกอบการโรงแรมที่มีสัดส่วนรายได้ในประเทศ ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารจะได้ผลบวกจากฟุต.โลก
#3430
ล้างหัวฉีดMobilio กระบวนการทำความสะอาดหัวฉีดจะช่วยให้ ซ่อมเครื่องยนต์ รถทุกชนิต ล้างหัวฉีดMobilio หัวฉีดจ่ายน้ำมันได้ตลอด เป็นละอองฝอย เผาไหม้บริบูรณ์ ลดคราบเขม่า ควันดำ ไม่ ล้างหัวฉีดMobilio กำเนิดมลพิษช่วยออมน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเมื่อไม่มีสิ่งสกปรกมาตัน ก็จะช่วยลดการกร่อน ซ่อมช่วงล่าง แอร์ ได้นาโม ล้างหัวฉีดMobilio ต่ออายุหัวฉีดให้ใช้งานนานขึ้น การล้างหัวฉีด จะช่วยยืดอายุการใช้แรงงานของรถยนต์ให้ยาวนานขึ้น
https://bit.ly/3h9lBHH
#3431
ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 4.5 พันล้านบาท "บบส. กรุงเทพพาณิชย์" ที่ "A-" แนวโน้ม "Stable"

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?A-? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 4.5 พันล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 8 ปี ของบริษัทที่ระดับ ?A-? ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปชำระคืนหนี้ ใช้ในการดำเนินกิจการ รวมไปถึงการขยายธุรกิจ

อันดับเครดิตสะท้อนถึงประสบการณ์ที่ยาวนานและความเป็นผู้นำในตลาดบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของบริษัท นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงระดับการก่อหนี้และความสามารถในการสร้างรายได้ในระดับปานกลางของบริษัท รวมถึงการมีแหล่งเงินทุนที่กระจายตัวด้วย อันดับเครดิตของบริษัทถูกลดทอนลงบางส่วนจากความเสี่ยงระดับมหภาคและความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินทรัพย์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการทางการเงินของบริษัทได้หากไม่มีการควบคุมที่ดี อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมองว่าความเชี่ยวชาญของบริษัทในการตั้งราคาซื้อขายสินทรัพย์ ตลอดจนกลยุทธ์ในการเลือกลงทุน และการกระจายตัวของประเภทสินทรัพย์และสถานที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นปัจจัยที่ช่วยลดทอนความเสี่ยงดังกล่าวลงได้ในระดับหนึ่ง

สำหรับครึ่งแรกของปี 2565 ผลประกอบการของบริษัทต่ำกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดไว้เล็กน้อยเป็นผลจากการปรับลดลงของเงินสดจัดเก็บจากธุรกิจการบริหารทรัพย์สินรอการขาย (Non-performing Asset -- NPA) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 1.14 พันล้านบาท เนื่องจากธุรกิจบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Non-performing Loans ? NPL) ที่ปรับตัวดีขึ้นช่วยลดผลกระทบจากรายได้ที่ปรับตัวลดลงของธุรกิจการบริหารทรัพย์สินรอการขาย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เงินสดจัดเก็บรวมมีปริมาณเท่าเดิมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเงินสดจัดเก็บจากธุรกิจบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวดีขึ้น 11% และเงินสดจัดเก็บจากธุรกิจการบริหารทรัพย์สินรอการขายปรับตัวลดลง 16% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทริสเรทติ้งคาดว่าเงินสดจัดเก็บจากธุรกิจบริหารทรัพย์สินรอการขายจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2565

ทริสเรทติ้งยังคงมีมุมมองในทิศทางบวกในธุรกิจบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2565 เป็นต้นไป ถึงแม้ว่าจะยังคงมีความกังวลในด้านเศรษฐกิจต่าง ๆ รวมไปถึง อัตราเงินเฟ้อในระดับสูง ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าพัฒนาการที่ดีในด้านการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชน และการยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศไทยจะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจเติบโตได้ดีขึ้นในปี 2566

ในขณะเดียวกัน อุปทานสินเชื่อด้อยคุณภาพในครึ่งแรกของปี 2565 ที่นำมาประมูลขายปรับเพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทำให้บริษัทมีการลงทุนที่ขยายตัวดีขึ้นในครึ่งแรกของปี 2565 แต่ยังคงมีปริมาณต่ำกว่าในช่วงก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด 19 โดยในครึ่งแรกของปี 2565 บริษัทใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นจำนวน 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 266% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อุปทานสินเชื่อด้อยคุณภาพที่สถาบันการเงินนำมาประมูลขายมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากการสิ้นสุดของมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยทริสเรทติ้งคาดว่าจะมีปริมาณสินเชื่อด้อยคุณภาพมากยิ่งขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนซื้อสินทรัพย์ของบริษัทในครึ่งหลังของปี 2565 และปี 2566

อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจต้องเผชิญกับความท้าทายจากแรงกดดันจากการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากต้นทุนทางการเงินเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายหลักของบริษัท และมีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดของบริษัท อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้นจะค่อย ๆ ทยอยรับรู้เนื่องจากเงินกู้ของบริษัทส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ระยะยาว ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2565 บริษัทมีหุ้นกู้ 14.7% ต่อหุ้นกู้รวมทั้งหมดที่จะหมดอายุภายในปี 2566 บริษัทมีการขายหุ้นกู้ไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 1.28 หมื่นล้านบาทตั้งแต่ต้นปี 2565 ทั้งนี้ หุ้นกู้ชุดใหม่จำนวน 4.5 พันล้านบาทจะเป็นแหล่งเงินทุนที่ช่วยในการขยายการลงทุนซื้อสินทรัพย์ของบริษัทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 หากคิดรวมหุ้นกู้ชุดใหม่ที่กำลังจะออกอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.1 เท่า จาก 2.0 เท่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 (ยังไม่รวมการจ่ายคืนหนี้สิน)

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ และระดับการก่อหนี้ยังอยู่ในระดับปานกลาง

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับเพิ่มขึ้นได้หากผลประกอบการทางการเงินของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมั่นคงและอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1.5 เท่าอย่างต่อเนื่อง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากสถานะในการก่อหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการขยายธุรกิจเชิงรุกโดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูงเกินกว่า 2.75 เท่าอย่างต่อเนื่อง หรือผลประกอบการทางการเงินของบริษัทถดถอยลงอย่างต่อเนื่องจนทำให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำกว่า 1.5% ในระยะเวลาหนึ่ง

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563

บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM)

อันดับเครดิตองค์กร: A-

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

BAM234A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-

BAM235A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,050 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-

BAM239A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-

BAM23DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-

BAM244A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-

BAM244B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,750 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-

BAM246A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-

BAM247A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-

BAM24DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-

BAM251A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,845 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-

BAM256A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 370 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-

BAM259A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-

BAM25NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,370 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-

BAM264A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-

BAM267A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 405 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-

BAM26DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-

BAM274A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,545 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A-

BAM276A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A-

BAM279A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A-

BAM284A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A-

BAM286A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A-

BAM28DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A-

BAM294A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,065 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 A-

BAM297A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 A-

BAM304A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A-

BAM307A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,050 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A-

BAM30NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 580 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A-

BAM317A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 A-

BAM324A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,140 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2575 A-

BAM347A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2577 A-

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 4,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 8 ปี A-

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2565 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html
#3432
กรุ๊ปเหมาตุรกี เราเป็นบริษัทนำเที่ยว พาท่านไปท่องเที่ยวทั่วโลก ราคาประหยัด ปี2565 -2566 กรุ๊ปเหมาตุรกี ทัวร์คุ้มค้าเงินที่ท่านจ่ายไป เดืนทางปลอดภัย มีไกด์ดูแลตลอดเส้นทาน กรุ๊ปเหมาตุรกี เรามีอาหารและของหวานตลอดการเดินทาง กรุ๊ปเหมาตุรกี พวกเราจัดกลุ่มเหมา ท่องเที่ยวแบบส่วนตัว รับทำ วีซ่า ทุกประเทศ
#3433
ทำตา2ชั้น ราคา สถานพยาบาล เป็นคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง ที่ได้รับ ทำตา2ชั้น ราคา การรับรองคุณภาพให้เป็นสถานพยาบาลที่ตามมาตรฐานทางการแพทย์ ทำตา2ชั้น ราคา ที่มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่เสมอกันโรงพยาบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยแพทย์ จบกระดานเฉพาะทาง และ เสริมความงดงาม ด้านผิวพรรณ ภายใต้การดูแลโดย พันตรีแพทย์ ธีรภัทร์ หัวใจประสาท อาจารย์แพทย์ ทำตา2ชั้น ราคา เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีความตั้งใจให้บริการทุกท่าน
#3434
กรุ๊ปเหมาจอร์เจีย นำทาง เดินทางปลอดภัย ราคาประหยัด กรุ๊ปเหมาจอร์เจีย มีไกด์ดูแล ที่พัก โรงแรม กรุ๊ปเหมาจอร์เจีย สบายสะบาย ของกินอร่อย มีพนักงานดูแลท่านตลอดเส้นทาง ยินดีให้คำปรึกษา กรุ๊ปเหมาจอร์เจีย ปี2565 -2566
https://bit.ly/3U1ziXH
#3435
เสริมจมูก ราคา สถานพยาบาล เป็นสถานพยาบาลเวชศาสตร์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง ที่ได้รับ เสริมจมูก ราคา การรับรองประสิทธิภาพให้เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานด้านการแพทย์ เสริมจมูก ราคา ที่มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่เสมอกันโรงพยาบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยแพทย์ จบบอร์ดเฉพาะทาง แล้วก็ เสริมความงดงาม ด้านผิวพรรณ ภายใต้การดูแลโดย พันตรีหมอ ธีรภัทร์ ใจประสาท คุณครูแพทย์ เสริมจมูก ราคา เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีความตั้งใจให้บริการทุกคน