(https://freelydays.com/wp-content/uploads/2023/04/%E0%B8%9D%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89-696x364.jpg)1. อย่าเป็นตัวของตัวเองเกินไปในโลกออนไลน์
คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าโลกอินเตอร์เน็ตเป็นหลักที่ส่วนตัว จะโพสต์อะไรมันก็สิทธิ์ของเรา แต่ว่าทราบรึเปล่าว่า HR สมัยนี้นอกจากจะมอง resume พวกเราแล้ว ยังมองเฟสของเราด้วย เพื่อนพ้องพวกเราที่เป็น HR รับรองมาว่าหน้าเฟสบอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราได้มากกว่า
Resume เป็นสิบเท่า สิ่งที่พวกเราโพสลงบนโลกออนไลน์ของเรานั้นส่งผลกับเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อพวกเราเป็นพนักงานประจำสุดกำลัง เรื่องเหล่านี้ยิ่งต้องระวัง หรือ
ถ้าหากอย า กมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆเสนอแนะให้แยกเฟสสถานที่สำหรับทำงาน (https://freelydays.com/13496/) กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาลำธารณพด้วย ยิ่งเรื่องดราม่าในสถานที่สำหรับทำงาน เกลีย ดคนนั้น เบื่องาน หัวหน้าโง่เขลาเบาปัญญา ห้ามโพสต์เด็ดขาด โพสต์ปุ้บมีคนแคปไปฟ้องแน่ๆ
2. จงเป็น "ลูกจ้างมือโปร"
ถ้าหากอย า กเป็นพนักงานประจำที่ประสบผลสำเร็จและสุขสบาย ต้องเป็น "ลูกจ้างมืออาชีพ" ให้ได้ ลูกจ้างมืออาชีพก็คือคนที่ตระหนักได้ว่า "พวกเราถูกจ้างมาด้วยเงินเดือนปริมาณหนึ่ง"
ซึ่งนี่ก็แปลว่าบริษัทเค้าต้องการอะไรบางอย่างจากพวกเราแลกเปลี่ยนกับค่าจ้างนั้นๆพวกเราจำต้องทราบดีว่าบริษัทจ้างพวกเรามาทำอะไร และก็ทำมันให้ดีมากยิ่งกว่าที่บริษัทมุ่งหวังถ้าต้องการความรุ่งโรจน์ในหน้าที่
ถ้าเกิดงานที่ทำอยู่รู้สึกว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่สมควรอดทนทำไป ควรหางานที่พวกเราทำแล้วเราเป็นสุขและก็ทำเป็นดีเพื่อดึงความสามารถของตัวเองออกมาให้มากที่สุด
นอกเหนือจากที่จะทำให้เราเติบโตในหน่วยงานแล้ว ยังทำให้เราพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาและไม่เบื่อด้วย แต่ว่าก็มิได้จะเชียร์ให้เป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนะ ทรหดอดทนทำไปจนกระทั่งจุดหนึ่ง
พวกเราจะรู้เองว่าควรไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ใช่ให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วพวกเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าคนอื่นๆ อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกจำนวนกี่ครั้งก็ได้ ถ้าหากในที่สุดเราพบสายอาชีพที่เรารักและก็อย า กทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมาก
แล้วก็ ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน "เราถูกว่าจ้างมาด้วยเงินเดือนจำนวนหนึ่ง" อย่าทำงานหนักเกินกว่าค่าแรงงานจนเหลือเกิน ทุ่มเทได้ แต่ว่าควรมีผลลัพธ์ที่ดีตามออกมาด้วย ดังเช่นว่าได้ปรับเงินเดือน ได้ประเมินดี
หาเวลาอยู่กับบิดามารดา เครือญาติๆบ้ า ง หันกลับไปมองดูข้างหลังบ้ า งว่าคนที่เป็นบันไดให้เรามายืนจุดนี้ ในช่วงเวลานี้เค้าเป็นอย่างไรกันบ้ า งนะ? อย่าลืมว่าบิดามารดาแก่ลงทุกๆวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าเกิดเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้คุณแล้วหาเวลาไป มันไม่ทุกข์ยากลำบากหรอก แลกกับความสบายของบิดามารดา
3. มีแฟนในสถานที่สำหรับทำงานได้แม้กระนั้นจำต้องยอมรับผลที่ตามมา
ถ้าคุณเป็นผู้ที่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออก เสนอแนะว่าอย่ามีคู่รักในที่ทำงาน มิได้พูดว่าไม่สมควรคบคนภายในสถานที่ทำงาน แต่ถ้าเกิดคบและก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาให้ได้ บางทีอาจจะต้องเจอเหตุการณ์เป็นต้นว่า
เถียงกับแฟนมาแล้วจำเป็นต้องมาคุยงานกัน มีคนใดกันบ้ า งแบ่งแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากงานได้ 100% บ้ า ง ถ้าเกิดไม่ต้องเจอหน้ากันทุกๆวันหรือปฏิบัติงานสนิทสนมก็ยังพอเพียงโอเค แต่ถ้าทีมเดียวกันอาจจะอ่อนล้าหน่อย ทะเลาะกันขึ้นมาเมื่อไรรู้ทีค่อนบริษัท
4. หาคนที่เป็นมากกว่าเพื่อนผู้ร่วมการทำงานให้เจอ
ไม่เหมือนกันระหว่าง "เพื่อน" กับ "เพื่อนร่วมงาน" คืออะไร...? ที่เค้าพูดว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนย า กก็คงจะจริง สมัยประถม การหาเพื่อนใหม่ไม่ย า กเท่ายุคมัธยม และ การหาเพื่อนในสมัยมัธยมก็ไม่อย า กเท่าตอนเข้ามหาวิทย า ลัย มันมีความหมายว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเยอะแค่ไหน พวกเราจะหาสหายย า กขึ้นแค่นั้น และไม่จะต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องที่แท้จิตใจคนนึงในที่ทำงานมันย า กมากแค่ไหน นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องมีราวผล
ทดแทน ทั้งยังตำแหน่ง เงินเดือน การคาดการณ์ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของมนุษย์เงินเดือนอย่างเราคือไปทำงาน มิได้ไปทำกิจกรรมสานสโมสรหาเพื่อนฝูง โดยเหตุนี้วันๆพวกเราก็เลยจะเจอแค่เพื่อนฝูงร่วมทีม ซึ่งส่วนมากและจากนั้นก็เป็นการคุยกันแค่เรื่องงานเพียงแค่นั้น การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้ววางใจอย่างนี้ พวกเรารู้สึกว่ามันคือกำไรชีวิต
พย า ย า มหาคนพวกนี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย า กไปทำงานมากขึ้น ให้เราทดลองถามตนเองว่า "ถ้าเกิดเราลาออกจากที่นี่ พวกเรายังจะอย า กนัดหมายคนนี้ทานข้าวอยู่ไหม...?" ถ้าเกิดคำตอบคือใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนพ้องจริงๆในสถานที่สำหรับทำงานแล้วววว
5. พอใจแต่อย่าเอาใจใส่ลู่วิ่งบุคคลอื่น จุดโฟกัสที่ลู่วิ่งของเรา
เมื่อปฏิบัติงานไปนานๆเราบางทีอาจมองเห็นเพื่อนฝูงๆในสถานที่ทำงานของเราคนจำนวนไม่น้อยเริ่ม ออกไปศึกษาต่อ สร้างครอบครัว บางบุคคลเปลี่ยนงานไปงานที่ค่าจ้างรายเดือนสูงสุดๆบางคนเริ่มธุรกิจของตัวเอง
ไอคนนั้นคนนี้เจริญแล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ จงจดจำไว้ว่าอย่าเอาจังหวะชีวิตของเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเด็ดขาด โฟกัสที่ทางวิ่งของเรา รู้ดีว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร
รู้ว่าจุดหมายปลายทางเราต้องการอะไร ทราบว่าวันนี้เราทำดีกว่าเมื่อวานแล้วหรือยัง ก็พอเพียงแล้ว แอบดูทางวิ่งคนอื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงกระตุ้นตนเองให้พย า ย า มเยอะขึ้น แต่ว่าอย่าเอามาเปรียบจนกระทั่งทำให้ตัวเองทุกข์
6. เล่นการเมืองกับทุกคน
เล่นการเมืองกับทุกคนมิได้มีความหมายว่าให้พวกเราไม่จริงใจกับผู้ใด แต่ว่าการเล่นการเมืองกับทุกคนเป็น.. การที่เราดูว่าคนนี้เป็นคนยังไง จะเข้ากับเขาได้ยังไง ไม่ได้พูดว่าให้สตอเบอร์ปรี่ หรือฝืนตัวเองมากมายๆนะ แต่แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความชอบ โตมาในสังคมที่ไม่เหมือนกัน การที่เราดูแล้วรู้ดีว่าจะ "อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร"
ได้เช่นไรจะมีผลให้พวกเราเหนือกว่ามากมายๆเว้นเสียแต่วางตัวง่ายแล้ว เราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางบุคคลที่ดูแล้วไม่ถูกจริตกัน การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักทายสวัสดีตามมารย า ท ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... พวกเราไม่รู้จักหรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงพวกเราเข้าไปดำเนินงานกับคนไหนกันแน่ ฉะนั้น อย่าสร้างศั ต รู เด็ดขาด...!!!
7. โดนด่าวันนี้ ดีมากกว่าโดนด่าทอตอนอายุ 50
ด้วยความที่อายุพวกเรายังน้อยนี่คือข้อได้เปรียบสุด เพราะ อายุยังน้อยความหวังจากคนที่อยู่รอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ทำอะไรผิดก็มักมีคนให้อภัยเสมอ ถึงแม้เราจะรู้สึกกดดันสำหรับการดำเนินงานสุดๆแต่ว่าเชื่อเถอะ พวกเราล้มเหลววันนี้ ดีมากยิ่งกว่าพวกเราไปล้มตอนอายุ 50 ถึงวันนั้นจะปลอดคนคุ้มกะลาหัวพวกเราด้วย
8. พวกเรามิได้เกิดมาเพื่อดำเนินการสิ่งเดียว
เราไม่ได้ปฏิบัติงานแล้วแฮปปี้วันแล้ววันเล่า หลายคราที่เรากลับไปบ้ า นแล้วอย า กจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แต่ถ้าหากเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต ยกตัวอย่างเช่น คิดเงินซื้ อ บ้ า น ซื้ อ รถยนต์ ท่องเที่ยวรอบโลก การเปลี่ยนมาทำเรื่องที่เราถูกใจจะทำให้อารมณ์เบิกบานขึ้น รวมทั้งเพิ่มความมั่นใจ เนื่องจากว่าการเฟลจากที่ทำงานโดยมากมักทำให้เราท้อแท้ใจ
แล้วก็ขาดความเชื่อมั่นในตนเองในตัวเอง สำหรับเรามันส่งผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน แล้วก็อีกเพียบเลย ยกตัวอย่าง เรามีเพื่อนฝูงคนนึงถูกใจตัดเย็บเสื้อผ้ามากมาย ขมักเขม้นขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร์อาทิตย์ ขณะนี้ทำงานประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย ตั้งมั่นดำเนินการเป็นเรื่องที่ดี แต่หาอย่างอื่นทำบ้ า งชีวิตจะได้ไม่เฉาคาที่ดำเนินงาน
ทำงาน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13496/