บอกอย่างไร ให้เหิมใจผู้ฟัง ให้เขารักเรา

[Cindy700]

1. เริ่มประโยค ด้วยความเป็นกันเอง

บางทีอาจจะเป็นการไต่ถามส า ร ทุกข์สุกดิบด้วยความกังวลและก็ใส่ใจในคำตอบของเขา อย่าลืมใช้คให้ำเรียบร้อย เหมาะสม และนุ่มนวลด้วยนะคะ "เป็นอย่างไรบ้ า งหยุดย า วที่ผ่านมา

ท่องเที่ยวไหนมาบ้ า งขา" การใช้ความเป็นกันเองจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่ อ น คลายและก็เป็นมิตรด้วยนะคะ อีกหัวข้อเป็นอวัจนะภาษาจ้ะ กิริยาอาการการพูดที่ถูกถ่ายทอดออก


กริ้วโกรธหว่างดวงตาเราหรือการสัมผัสบางสิ่งบางอย่างเช่น การสัมผัสไหล่เพื่อกำลังใจ การจับมือเพื่อปลอบประโลมปะโลม ปรบมือให้เพื่อให้แรงใจ ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้ท่านแล้วก็เค้าเข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น

2. ฝึกหัดกล่าว คำว่า"ไม่" แล้วชีวิตคุณจะ "ใช่"

เพราะคำว่า"ไม่" มันบอกให้ดูดีย า ก บอกบอกความหมายเป็นบวกได้ย า กมาก คำบางคำเป็นคำที่มักนำมาใช้ทำร้ า ย จิตใจคนอื่น แสดงถึงความไม่ถูกใจในตัวเขาหรืองานของเขา คนจำนวนไม่น้อยใช้คำนี้จนกระทั่งติดจนเป็นนิสัยซึ่ง

ไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเองเลยล่ะค่ะ อย า กให้ทดลองเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้มันดูนะคะ ยกตัวอย่างเช่น "ลองทำอย่างงี้ดูดีไหม" "แบบนี้ก็ดีแล้วนะ หากเพิ่มส่วนนี้อีกหน่อยคุณมีความคิดว่าจะเป็นอย่างไรค่ะ" แปลว่า พวกเราไม่ได้ไม่ยอมรับความนึกคิดของอีกฝ่ายแม้กระนั้นลองเสนอแนะเพิ่มเติมอีกเหมือนการชี้แนะเขา

3. มองดูให้ได้ 3 มุม

การพูดเป็นดั่งดาบ 2 คม ไม่ทิ่มแ ท ง เค้า ก็ย้อนกลับมาแ ท ง ที่ตัวเราเอง "สติ"สิ่งเดียวบางทีอาจไม่เพียงพอ คุณจำต้องฝึกหัดขั้นตอนการคิดอย่างมีสติและพินิจพิจารณาไปพร้อมเพียงกันด้วยจ้ะ

มองว่าธรรมชาติของเค้าเป็นคนอย่างไร เรื่องไหนควรกล่าว เรื่องไหนไม่ควรกล่าว แต่ว่าที่สำคัญไปๆมาๆกกว่านั้น ทุกหนถ้าเกิดจะมีการต่อว่า ตัดเตือน ปรับแต่งข้อผิดพลาดของงาน ให้ลองมองดูให้ได้ 3 มุม


1. มุมของพวกเรา : พวกเรามองว่าอย่างไร ในตำแหน่ง หน้าที่พวกเรา เราควรดูแบบไหน ไขปัญหาอย่างไร


2. มุมของเค้า : ถ้าหากพวกเราเป็นเค้าเราจะทำยังไง ถ้าหากพวกเราตกอยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน โดนแบบงี้เช่นเดียวกันพวกเราจะรู้สึกอย่างไร แล้วเราจะไขปัญหานั้นแบบไหน

3. มุมของบุคคลที่3 หรือคนอื่นๆที่มอง 2 คนนี้อยู่ : เค้าทำอะไรกัน ปัญหาคืออะไร เล็ก ใหญ่มากแค่ไหน ขนาดที่ต้องทะเลาะกันเลยอย่างงั้นหรือ ทะเลาะเบาะแว้งด้วยหัวข้อนี้เหตุผลมาจากอะไร เป็นต้น

หากคุณดูให้ได้ครบทุกมุม คุณจะมองเห็นทุกด้านของความคิด รู้เรื่องเค้า รู้เรื่องพวกเรา รู้เรื่องสถานการณ์ที่เกิดมากยิ่งขึ้น

4. อย่าว่ากล่าวคนไหนกัน ต่อหน้าบุคคลอื่น

ไม่มีผู้ใดชอบการถูกตำหนิจ้ะ เราก็เช่นเดียวกันใช่ไหมล่ะขา ยิ่งโดนด่าซึ่งๆหน้าคนอื่นๆด้วยแล้วล่ะก็ มันช่างเ จ็ บ แค้นแสนรุนแรงเสียอย่างยิ่งจริงๆการด่าทอคนไหนต่อหน้าต่อตาคนอื่นมันเป็นการตั้งมั่นฉีกหน้าเค้าให้พังทลายยับประเภทที่เรียกว่า

คนที่โดนด่านั้นจะจำฝังใจไปจนถึงวันต า ย อย่างยิ่งจริงๆ แล้วก็ความเกี่ยวพันระหว่างคุณแล้วก็เค้าจะเสียไปในทันทีทันใด ในที่สุดแล้วไม่มีข้างไหนชนะ ไม่มีใครได้ประโยชน์จากวิธีการทำแบบงี้จ้ะ โดยเหตุนี้แล้วถ้าไม่ใช่เรื่องที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อส่วนกลางแนะนำว่าไม่ควรที่จะทำอย่างมากจ้ะ

5. มีศิลปการดู

ชมเมื่อเค้าทำดี ดำเนินงานก้าวหน้า ช่วยเหลือคนอื่นๆ มีผลงานที่ดี ประพฤติดี คุณก็ควรดูเค้าด้วยใจจริงที่ปรารถนาดี คำพูด คำจา น้ำเสียงที่ดี เค้าหน้าปิติยินดีพลอยยินดีไปกับเค้าด้วย เพราะสิ่งพวกนี้มีผลต่อความรู้สึกมากนะคะ ผู้ที่ถูกชมเค้าจะเสมือนได้รับของขวัญพิเศษจากคุณ ทำให้มีแรงผลักดัน มีพ ลั ง ที่จะทำสิ่งนั้นให้ดียอดๆขึ้นไป

การมีนายช่างชมที่ดีนั้น ไม่สำคัญจึงควรดูที่ผลงานของเค้าเท่านั้นจ้ะ อย า กให้ลองชมความน่ารักของเค้า ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความใส่ใจที่เค้ามีต่อคุณ ชมเครื่องแต่งตัว


ชมยานพาหนะ ชมกระเป๋าหิ้วเค้า หรือสิ่งบริเวณตัวเค้า เพียงเท่านี้ก็เป็นการสร้างความสุขให้เค้าได้แล้ว รวมทั้งเค้าจะกำเนิดภูมิใจเกิดความเชื่อมั่นและมั่นใจในตัวเอง แล้วเขาจะรักพวกเรา ถึงแม้เคยเป็นศั ต รู กันโกรธไม่มองหน้ากันก็จะหายโกรธพวกเราจ้ะ ทดลองดูนะคะ

6. อย่ารั ก ษ า น้ำใจด้วยการพูดอะไรที่มันไม่จริง

บางคนเข้าใจผิดว่าการกล่าว"รั ก ษ า น้ำใจ"เป็นการกล่าวในสิ่งที่มันไม่จริงเพื่อให้เค้ากระปรี้กระเปร่า และก็บางโอกาสคนเรา ก็ถูกใจที่จะ "รั ก ษ า ภาพพจน์"(ที่ไม่จริงของตัวเอง)มากยิ่งกว่ารั ก ษ า น้ำใ

จึงเลือกพูดไปในสิ่งที่มันไม่จริงเพราะเหตุว่ากลัวว่าถ้าพวกเราพูดความจริงไป"เราจะดูแย่ รวมทั้งบางคราวก็รั ก ษ า ความเอื้อเฟื้อ ด้วย"การไม่บอก" ซึ่งทั้งยังการพูดอะไรที่มันไม่จริงและทั้งการไม่บอก

มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำค่ะ เพราะว่านอกเหนือจากจะเป็นราวกับการผลักดันและส่งเสริมพฤติกรรมของเค้าแล้ว ทำให้เขาไม่รู้ตัว แถมยังหลงเหลิงว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกก็ดีแล้ว

"คิดทุกคำก่อนจะกล่าว แต่ไม่จำเป็นที่ต้องพูด ทุกคำที่พวกเราคิด" ไม่พอจ้ะ จะต้องเลือกใช้คำที่จะกล่าวให้เหมาะสมด้วย

7. เจอปริศนาที่จำเป็นต้อง "ฟั น ธง" หรือ "ตกลงใจ" บางสิ่งแล้วพวกเรายังไม่แน่ใจ ตอบยังไงให้ดูดี

ถ้าควรจะมีการตอบปัญหาที่เป็นปริศนาปลายปิด "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ควรจะหรือเปล่าควร ดีหรือเปล่าดี คุณคิดอย่างไร จำเป็นต้องทำเช่นไร เจอปัญหาเหล่านี้แล้วพวกเราไม่รู้หรือไม่แน่ใจในคำตอบ

สิ่งที่เป็นปัญหานั้นก็คือถ้าหากพวกเราไม่ตอบ พวกเราก็ดูแ ย่ ถ้าพวกเราตอบแล้วตอบผิด ก็ดูแ ย่ ไม่แพ้กัน ฉะนั้นทางเลือกของเราให้เราแถได้แบบแถแล้วดูดี หลักมันอยู่ที่ตรงนี้ค่ะ


⁃ คำตอบของคุณจำเป็นที่จะต้องไม่ไปอ้างอิงผู้ใดกัน ไม่เป็นการติเตียนผู้ใด


⁃ ใช้เหตุส่งผลมารองรับ จะให้น้ำ ห นั ก กับคำตอบมากขึ้นเรื่อยๆ ตอบช้าๆได้ค่ะ ช่างเถิด เบาๆใช้สมอง ตอบอย่างมีสติสัมปชัญญะ เจาะจงถึงเหตุผลความเป็นมาให้กระจ่าง

⁃ คุณสามารถอธิบายได้นะคะในบางเรื่อง ว่าหัวข้อนี้"ไม่เกี่ยวกับเราโดยตรง" ด้วยลักษณะงานแล้ว "ดิฉันอย า กช่วยมากมายๆเลยคะ เลยอย า กชี้แนะให้ลองขอคำแนะนำทาง... จะได้คำตอบที่แน่นอนกว่านะคะ" นี่เป็นการปฏิเสธแบบรั ก ษ า ความมีน้ำใจ

⁃ ถามกลับไป ทวนคำถามเพื่อ ใคร่ครวญมุมมองของเขา แล้ว"คุณคิดอย่างไรบ้ า งคะ" แต่ว่ากรณีนี้พวกเราต้องมีการเสริมข้อคิดเห็นของเราลงไปบ้ า งนะ เค้าจะได้ทราบสึกได้ว่าเรากำลังพย า ย า มช่วยหาคำตอบอยู่

⁃ หาคำตอบมาให้ภายหลัย คุณสามารถตอบในลักษณะที่ว่า "ดิฉันทราบแต่เพียงว่า... ส่วนที่เสริมเติมจะรีบไปค้นหาคำตอบมาให้นะคะ"

"แนวทางกล่าวยังไงให้คู่รักนี้" ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่ า น ทุกคนนะคะ รวมทั้งขอขอบพระคุณจากหัวใจที่อ่ า น มันจนกระทั่งบรรทัดนี้ แม้กระนั้นสิ่งนี้คงเป็นได้เพียงข้อเสนอสั้นๆที่ถูกเลื่อนหายไปจากฟีตหน้าเ ฟ ส บุ๊ ค ของคุณเพียงแค่นั้น หากคุณไม่ลองเปิดใจ
เทคนิคการพูด
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13493/